Tuesday, August 11, 2009

Why Measuring Body Fat Is More Important Than Body Weight?

Body fat. The words can make many, especially ladies, uneasy to discuss about. The reason is obvious. Contrary to what you might think, your body does not have body fat because it is trying to ruin your life. Rather, body fat is an energy-efficient fuel source.

Before you start any fat loss or weight training program, in addition to your body weight, you must take your body fat percentage reading. Knowing the weight alone does not distinguish whether the weight comes from fat or muscle. In order to assess your physical fitness level, you need to know your body fat.

After doing weight training program for few months, your weight may stay the same or even increase, but your body fat percentage should go lower. Why?

Muscle tissue is more compact than fat and therefore you may weigh heavier. So, weight increase because of muscles gained is fine as long as you lose your body fat. Fat cannot become muscle, and muscle cannot become fat. They are two entirely different types of tissues. Muscle is more metabolically active than fat tissue. You will burn more calories with more muscles. By burning more calories from stored fat, you have less body fat.

So, it is important to know your body fat percentage. Body fat is often expressed as our “Body Fat Percentage”. For instance, for a 100 kg person with 20% body fat, 20 kg of that person is body fat, and the rest is bones, organs, water, and most importantly muscle.

The following table provides the rating systems. The readings are based on gender and age.


You may have noticed several interesting facts about the tables:

* Body fat percentage is expected to increase when we get older.
* Within the same age group, compared with man, woman having more body fat is deemed to be healthy.

What other facts not available from the tables yet remain very important which I want to highlight:

* The higher your percentage of fat above average levels, the higher your health risk for weight-related illness such as heart disease, high blood pressure, gallstones, type 2 diabetes, osteoarthritis and certain cancers.
* However, for women especially those super thin fashion models, having too little body fat may cause them suffering from amenorrhea (not having period).

In a nutshell, body fat is an important element in successful weight control. So, don’t forget to measure your body fat. Want to find out how to measure your body fat?

Contact Form

ทำไมการวัดค่าของระดับไขมันในร่างกายจึงมีความสำคัญกว่าค่าของน้ำหนักตัว

ไขมันในร่างกาย (ความอ้วน) คำที่ให้ความหมายได้หลายอย่าง โดยเฉพาะกับผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะมาถกกัน เหตุผลนั้นชัดเจนอยู่แล้วแต่มันอาจจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณไม่มีไขมัน (ส่วนเกิน) เลย เพราะว่า มันจะทำให้คุณรู้สึกแย่ถึงกับขั้นทำลายชีวิตของคุณได้ แทนที่จะคิดว่า ไขมันในร่างกาย ก็คือ แหล่งกำเนิดพลังงานที่มีประสิทธิภาพของคุณ

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเริ่มโปรแกรมเพื่อการลดไขมันหรือน้ำหนักใด ๆ ก็ตาม นอกจากจะชั่งน้ำหนักตัวของคุณแล้ว คุณยังต้องตรวจวัดค่าระดับ (เปอร์เซ็นต์) ไขมันในร่างกายของคุณด้วย รู้แต่เพียงค่าน้ำหนักตัวอย่างเดียวไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างว่า น้ำหนักตัวมาจากปริมาณไขมันหรือกล้ามเนื้อในร่างกาย เพื่อการพัฒนาระดับความฟิตของร่างกาย คุณจำเป็นต้องรู้ค่าระดับไขมันในร่างกายของคุณ

หลังจากผ่านการเข้าโปรแกรมเพื่อการลดน้ำหนักแล้ว สัก 2-3 เดือน น้ำหนักตัวของคุณอาจจะมีค่าคงที่หรือแม้แต่เพิ่มขึ้น แต่ค่าระดับไขมัน (เปอร์เซ็นต์) ควรจะมีค่าลดลง ทำไมน่ะเหรอเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อมีขนาดที่เล็กกว่าไขมันและน้ำหนักจะมีมากกว่าด้วยถ้าเทียบกันที่ขนาดที่เท่ากัน

ดังนั้น น้ำหนักเพิ่มขึ้นเพราะปริมาณกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นไม่มีปัญหาอะไร ตราบใดที่ระดับไขมันในร่างกายของคุณลดลง ไขมันไม่สามารถกลายสภาพเป็นกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อก็ไม่สามารถกลายสภาพเป็นไขมัน มันเป็นเนื้อเยื่อสองอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กล้ามเนื้อมีผล เกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารมากกว่าเนื้อเยื่อไขมัน คุณจะเผาผลาญพลังงาน (แคลอรี่) ได้มากกว่าด้วยกล้ามเนื้อที่มากกว่า โดยการเผาผลาญพลังงานที่มาจากไขมันสะสม จะทำให้คุณมีระดับไขมันในร่างกายที่ลดลง

ดังนั้น สำคัญมากที่คุณจะต้องรู้ค่าระดับไขมัน (เปอร์เซ็นต์) ในร่างกายของคุณ ระดับไขมันในร่างกายมักจะถูกเรียกเพื่อความชัดเจนว่า “ระดับเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย” ตัวอย่างเช่น สำหรับคน ๆ หนึ่งที่มีน้ำหนักตัว 100 กก. และมีระดับไขมันในร่างกาย 20% ก็จะได้ค่าน้ำหนักของไขมันร่างกายอยู่ที่ 20 กก. และส่วนที่เหลือก็จะเป็นกระดูก ระบบต่อมไร้ท่อ (อวัยวะ) น้ำ และที่สำคัญที่สุดก็คือกล้ามเนื้อ

ตารางข้างล่างนี้บอกถึงระบบการประเมิน แบ่งแยกตามเพศ และอายุ

คุณอาจจะสังเกตเห็นถึงค่าที่น่าสนใจบางอย่างที่ได้จากตาราง

* ระดับเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น
* ในช่วงอายุที่เท่ากัน เมื่อเปรียบเทียบกัน เปรียบเทียบกับผู้ชาย ผู้หญิงมีค่าระดับไขมันของร่างกายที่สูงกว่าถึงจะถือว่ามีสุขภาพที่ดีกว่า

ยังมีค่าอย่างอื่นที่ไม่ได้มาจากตารางแต่ก็มีความสำคัญมากที่ผมอย่างจะกล่าวถึง

* ยิ่งค่าระดับเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายของคุณสูงกว่าค่าเฉลี่ยในตารางมากเท่าใด ความเสี่ยงทางสุขภาพที่คุณป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว (โรคอ้วน) ก็สูงขึ้นมากเท่านั้น เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง นิ่วในถุงน้ำดี โรคเบาหวานประเภท 2 โรคข้อกระดูกอักเสบ และแน่นอน มะเร็ง
* อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้หญิงที่หุ่นเหมือนกับนางแบบหุ่นผอมเพรียว ที่มีระดับไขมันในร่างกาย น้อยมากอาจจะเป็นผลให้ต้องทนทุกข์จากภาวะที่ไร้ประจำเดือน (ประจำเดือนไม่มา)

โดยสรุปแล้ว ไขมันในร่างกายเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการควบคุมน้ำหนักให้ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น อย่างลืมที่จะวัดค่าระดับไขมันในร่างกายของคุณ อยากรู้หรือเปล่าครับว่าเราจะวัดค่าระดับไขมันในร่างกายได้อย่างไร

ติดต่อกลับ

1 comment: